ชายหญิงที่กำลังมีความรัก หรือเป็นคู่รักกันนั้น เมื่อเขาทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน ใกล้ชิดกัน ดูเหมือนว่าโลกทั้งโลกล้วนแล้วแต่เป็นสีชมพูเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข แต่ต้องยอมรับว่า เมื่อเขาทั้งสองได้ตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน ใช้ชีวิตร่วมกันเพื่อสร้างครอบครัวใหม่ของตนเอง ชีวิตหลังแต่งงานนั้นก็เปรียบเสมือนการเดินทางที่ยาวไกล เส้นทางแห่งการเดินทางอาจจะราบเรียบบ้าง ขรุขระมีอุปสรรค์บ้างล้วนแล้วแต่เป็นธรรมดาตามวัฏจักรของชีวิต
แต่การที่จะก้าวข้ามผ่านปัญหาและอุปสรรค์ต่างๆตลอดเส้นทางของการเดินทางนี่ซิครับเป็นสิ่งสำคัญ แน่นอนว่าหลังจากที่หญิงชายได้แต่งงานกันแล้ว การใช้ชีวิตของบุคคลทั้งสองย่อมเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย แต่ละฝ่ายมีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น จะใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีเต็มร้อยเหมือนเมื่อครั้งที่ยังไม่มีครอบครัวย่อมไม่ได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเครียดตามมา วันนี้ในฐานะที่ได้ผ่านประสบการณ์การมีครอบครัวมาอย่างยาวนาน และได้ยินได้ฟังเรื่องราวต่างๆมามาก อยากจะถือโอกาสมาแนะนำ ชายหญิงที่กำลังมีความรักนำไปพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจเข้าสู่ประตูวิวาห์…ต่อไป
คำสอนจากพ่อ – การตัดสินใจก่อนแต่งงาน
ในฐานะที่ผมเป็นพ่อ ของลูกที่มีอายุสมควรที่จะไปสร้างครอบครัวใหม่ของตน ผมจะให้คำแนะนำแก่บรรดาลูกๆ..ก่อนที่จะมีครอบครัวเป็นข้อๆดังนี้ครับ
1. สามารถรับความผิดพลาดของคนที่เรารักได้แค่ไหน แน่นอนว่าเวลามีความรัก เราจะไม่เห็นข้อผิดพลาดของอีกฝ่ายหนึ่งเลย อย่างสุภาษิตโบราณที่ว่า “ความรักทำให้ตาบอด” แต่ลองถามตัวเองให้ดีก่อนว่า ถ้าสมมุติว่าคนที่เรารักทำผิด เราสามารถที่จะรับได้แค่ไหน และมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร
2. ความพร้อมในด้านฐานะการเงิน การสร้างรายได้ เพราะการที่จะมีครอบครัวนั้น บุคคลทั้งสองจะต้องพร้อมทางด้านฐานะการเงินพอสมควร ด้วยการสร้างครอบครัวใหม่ของตน จะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นอีกมากมายหลายเรื่อง ไหนจะต้องเตรียมเงินจัดงานแต่งงาน ไหนจะต้องเตรียมเงินสร้างบ้านใหม่ เตรียมความพร้อมสำหรับสมาชิกใหม่ที่จะเกิดขึ้น ไม่ใช่ว่า ถึงเวลามัวแต่จะทำโอทีเช้ายันมืด เพื่อที่จะสร้างรายได้ให้พอกับรายจ่าย เอาเวลาสำหรับครอบครัวไปมัวแต่หาเงิน อันนี้อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ในภายหลัง
3. ความรักไม่ได้หมายถึงความเป็นเจ้าของ การแสดงความเป็นเจ้าของนั้น เราสามารถแสดงได้กับสิ่งที่เป็นสิ่งของเครื่องใช้เท่านั้น เราไม่สามารถเป็นเจ้าของชีวิตของใครได้ แม้กระทั่งพ่อแม่ก็ไม่สามารถที่จะเป็นเจ้าชีวิตของลูกได้ นับประสาอะไรกับสามีภรรยา ซึ่งคู่สามีภรรยาหลายๆคู่เข้าใจผิดในเรื่องนี้ พยายามกระเกณฑ์ให้อีกฝ่ายหนึ่งทำตามความพึงพอใจของตนอย่างไม่มีเหตุผล อันนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย แท้ที่จริงนั้น ความรักคือความรู้สึกที่บุคคลทั้งสองอยากจะเกื้อกูล ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ให้ความเป็นห่วงเป็นใยแก่กัน อยากให้คนที่เรารัก มีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยอบอุ่นและมีความสุข
4. การให้เกียรติกัน เคารพในความเป็นส่วนตัวซึ่งกันและกัน ไม่ก้าวล่วงไปในความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายหนึ่งมากจนเกินควร เพราะคนเราทุกคนมีความต้องการความเป็นส่วนตัวไม่มากก็น้อย จริงอยู่ว่าการที่มีครอบครัวแล้วแต่ละฝ่ายจะใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีเต็มร้อยไม่ได้ แต่การใช้ชีวิตส่วนตัวบ้างตามเหตุอันสมควรก็ควรมีอยู่บ้าง
5. ความไว้เนื้อเชื่อใจ อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยทีเดียว ถ้าคนที่เรารักไม่สามารถทำให้เราไว้เนื้อเชื่อใจได้อย่างสนิทใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว อย่าเลือกคนๆนั้นมาเป็นคู่ชีวิตเป็นอันขาด เพราะถ้าชีวิตคู่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงสงสัย มันจะทำให้เรามีความสุขได้อย่างไร..?
6. ความมีเหตุมีผล คนที่จะมีวุฒิภาวะพร้อมที่จะมีครอบครัวนั้น จะต้องเป็นคนที่ดำเนินชีวิตด้วยเหตุผลพอสมควร ไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์ในการดำเนินชีวิต เพราะความไม่พอใจส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากการที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ทำตามความพอใจของเรา มันไม่เกี่ยวกับว่าอะไรผิดหรือถูก มันเพียงแต่ว่าเขาไม่ทำตามความต้องการของเราเท่านั้น ฉะนั้นการใช้เหตุและผลจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่เอาความพึงพอใจส่วนตนมาเป็นที่ตั้ง
7. มีการวางแผน ก่อนที่จะตัดสินใจมีครอบครัว หญิงชายควรจะมีการวางแผนถึงอนาคตของครอบครัวใหม่เสียก่อน และลองประเมินด้วยเหตุและผลถึงความเป็นไปได้ ถ้าคิดว่ายังไม่พร้อมก็ควรจะชะลอไว้ก่อน พร้อมเมื่อไหร่จึงค่อยตัดสินใจ
โดยสรุปคำสอนจากพ่อสู่ลูกก่อนคิดแต่งงาน
นี่เป็นเพียงคำแนะนำอย่างกว้างๆจากผู้ที่มีฐานะเป็นพ่อเป็นแม่ที่อยากจะแนะนำลูกๆของตนก่อนที่จะตัดสินใจมีครอบครัว เพราะพ่อแม่ทุกคนก็คงอยากจะให้ลูกๆทุกคนประสบความสำเร็จในการสร้างครอบครัวใหม่ของตนเองด้วยกันทั้งนั้น ถ้าคู่รักคู่ใดมีคุณสมบัติและสามารถทำตามคำแนะนำในเบื้องต้นนี้ได้ ทางทีมงานเชื่อเหลือเกินว่า คู่รักคู่นั้นจะต้องสามารถก้าวข้ามอุปสรรค์ต่างๆในการเดินทางไปสู่ชีวิตครอบครัวใหม่ที่สมบูรณ์และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขได้อย่างแน่นอน
บทความโดย ธนชาต ชยะกุลศักดา (The Sorento)